เอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกนร่วมเป็นวิทยากรบรรยายในโครงการเปิดประตูการค้าสู่ตลาดใหม่ "นอร์ดิก: ตลาดที่ท้าทายสำหรับผู้ส่งออกไทย"
เอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกนร่วมเป็นวิทยากรบรรยายในโครงการเปิดประตูการค้าสู่ตลาดใหม่ "นอร์ดิก: ตลาดที่ท้าทายสำหรับผู้ส่งออกไทย"
วันที่นำเข้าข้อมูล 24 ส.ค. 2566
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 25 ส.ค. 2566
| 356 view
เมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๖ นางศิริลักษณ์ นิยม เอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน ได้ร่วมเป็นวิทยากรการเสวนาในโครงการเปิดประตูการค้าสู่ตลาดใหม่ ”"นอร์ดิก: ตลาดที่ท้าทายสำหรับผู้ส่งออกไทย" ในรูปแบบ Online ผ่านระบบ Zoom Meeting ในหัวข้อ "โอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทย-เดนมาร์ก" ซึ่งจัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าพร้อมทั้งขยายตลาดสินค้าไทยในตลาดนอร์ดิก โดยในส่วนของเดนมาร์กมีผู้เชี่ยวชาญทางการค้าจากภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมเป็นวิทยากร ประกอบด้วยนางสาวณิชพร วรรณพฤกษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโคเปนเฮเกน บรรยายเกี่ยวกับการขยายตลาดสินค้าไทยเข้าสู่ตลาดนอร์ดิก นาย Esben Gravlev เจ้าของและ CEO บริษัท Lucie Kaas ของเดนมาร์กประกอบธุรกิจด้านสินค้าเครื่องใช้ในบ้าน นาง Daisy Ma ผู้จัดการใหญ่บริษัท CT Food ของสวีเดนประกอบธุรกิจนำเข้าสินค้าอาหารสำเร็จรูปจากประเทศไทย และนาย Lars Balling เจ้าของและ CEO บริษัท Vitafoods ของเดนมาร์กประกอบธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่ม ร่วมบรรยายเกี่ยวกับเทคนิคในการเจาะตลาดเดนมาร์กและตลาดนอร์ดิกส์
ในระหว่างการบรรยาย เอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเดนมาร์กซึ่งครบรอบ ๑๖๕ ปี ในปี ๒๕๖๖ มีรากฐานที่สำคัญที่เริ่มต้นมาจากการค้าและการลงทุน โดยในปัจจุบัน การค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับเดนมาร์กส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ โดยภาคเอกชนไทยและเดนมาร์กกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นหุ้นส่วนใหม่ในสาขาที่มีความสำคัญกับอนาคต เช่น พลังงานสีเขียว และการผลิตอาหารและการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมาจากการที่ทั้งสองฝ่ายเล็งเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจจากโมเดลเศรษฐกิจ BCG ของไทยและความเชี่ยวชาญของเดนมาร์กในสาขานี้ เดนมาร์กถือเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าและเป็นผู้นำในด้านเศรษฐกิจสีเขียว มีโครงสร้างพื้นฐานและระบบกระจายสินค้าที่ทันสมัยและตั้งอยู่ใจกลางสำคัญซึ่งสามารถเป็นจุดกระจายสินค้าที่ดีสำหรับตลาดสแกนดิเนเวีย ยุโรปเหนือ และบอลติก เอกอัครราชทูตฯ ย้ำว่า ชาวเดนมาร์กให้ความสนใจกับสินค้าที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เน้นเกษตรอินทรีย์ ใส่ใจต่อสวัสดิภาพสัตว์ และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ สินค้าที่ส่งออกมาเดนมาร์กควรเป็นสินค้าที่ได้มาตรฐานตามกฎระเบียบของ EU ทั้งในด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และความยั่งยืน ดังนั้น สินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในเดนมาร์กควรเป็นสินค้าที่ดีต่อโลกตามแนวโน้มอุตสาหกรรม “อาหารแห่งอนาคต” หรือ Future Food ที่ต่อยอด กระบวนการผลิตอาหารแบบเดิมให้ตอบโจทย์การลดภาวะโลกร้อนไปพร้อมกับสร้างระบบอาหารที่เน้นคุณค่าทางโภชนาการสูงและสนับสนุนความยั่งยืน ทั้งนี้ สามารถรับชมการเสวนาย้อนหลังได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=gWaCOkMDuDk
โครงการเปิดประตูการค้าสู่ตลาดใหม่ "นอร์ดิก: ตลาดที่ท้าทายสำหรับผู้ส่งออกไทย"