เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๖ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน ได้จัดงานเลี้ยงรับรองเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๖ ณ ห้อง Vesterhavet Hall โรงแรม Copenhagen Marriotte Hotel

นางศิริลักษณ์ นิยม เอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในฐานะพระมหากษัตริย์ผู้ทรงอุทิศตนเพื่อพัฒนาประเทศและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน โดยได้ทรงริเริ่มโครงการการพัฒนาที่ยั่งยืนมากกว่า ๔,๐๐๐ โครงการ จากนั้นได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ไทย-เดนมาร์กที่ยาวนานกว่า ๔๐๐ ปีนับตั้งแต่การติดต่อกันครั้งแรก และปีนี้ยังครบรอบ ๑๖๕ ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดกิจกรรมร่วมกับฝ่ายเดนมาร์กเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสดังกล่าวในหลายเมืองในเดนมาร์กตลอดทั้งปี รวมถึงความสำเร็จของการจัดประชุม Political Consultation ไทย-เดนมาร์ก ครั้งที่ ๖ ที่กรุงเทพฯ ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเสริมสร้างความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกันในหลายด้าน เอกอัครราชทูตฯ ยังได้กล่าวถึงนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลไทยในการส่งเสริมอุตสาหกรรมสีเขียว เศรษฐกิจดิจิทัล โครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ และการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสความร่วมมือระหว่างไทยกับเดนมาร์กให้บรรลุเป้าหมายความยั่งยืนในทุกมิติ นอกจากนี้ ยังได้แจ้งให้ผู้เข้าร่วมงานได้ทราบว่า ในปีนี้ไทยได้รับรางวัล “ประเทศท่องเที่ยวที่ดีที่สุดนอกยุโรป” ในงาน Danish Travel Awards 2023 และยินดีที่สายการบิน Scandinavian Airlines ได้กลับมาเปิดเที่ยวบินตรงระหว่างกรุงโคเปนเฮเกน-กรุงเทพฯ อีกครั้ง นอกเหนือจากเที่ยวบินทุกวันของการบินไทย ซึ่งจะเป็นการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้า และการติดต่อระหว่างประชาชนระหว่างกันให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น

เอกอัครราชทูตฯ ยังได้ใช้โอกาสนี้ กล่าวขอบคุณชุมชนไทยที่ได้ให้ความร่วมมือและสนับสนุนกิจกรรมของสถานเอกอัครราชทูตฯ ที่ได้ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเดนมาร์กตลอดช่วงปีที่ผ่านมาอย่างดียิ่ง รวมทั้งยังได้อัญเชิญพระราชกระแสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสที่ได้พระราชทานวโรกาสให้เอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลกเข้าเฝ้าเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ซึ่งได้ทรงฝากความรักและความปรารถนาดีมายังชุมชนชาวไทยในต่างประเทศ โดยทรงตรัสว่า มีความปลาบปลื้มและภาคภูมิใจที่ชุมชนไทยยังรักษาความเป็นไทย เป็นผู้แทนที่ดีของประเทศชาติและสังคมไทย คนไทยไม่ว่าอยู่ที่ไหนถ้ามีความตั้งใจ ภูมิใจในความรักบ้านเมืองและความเป็นไทยอยู่ที่ไหนก็รอด ขอฝากความรักและคิดถึงมายังชุมชนไทยด้วย

ในตอนท้ายของสุนทรพจน์ เอกอัครราชทูตฯ ได้เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานดื่มถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ ๒ แห่งเดนมาร์ก

ทั้งนี้ ในงานเลี้ยงรับรองยังมีการแสดงบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ กฤษติ์ บูรณวิทยวุฒิ นักแซ็กโซโฟน และอาจารย์ดริน พันธุมโกมล นักเปียโนแจ๊ส จากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล บรรเลงร่วมกับนาย Jakob Dinesen นักแซ็กโซโฟน และนาง Yasmin Kierkegaard นักร้อง นอกจากนี้ ยังมีการแสดงนาฏศิลป์ไทยชุด “กินรีร่อนซัดชาตรี” โดยนักแสดงชาวไทยจากชุมชนไทยในกรุงโคเปนเฮเกนระหว่างงานเลี้ยงรับรองด้วย

งานเลี้ยงรับรองวันชาติปีนี้มีผู้เข้าร่วมประมาณ ๒๐๐ คน ประกอบด้วยคณะทูตานุทูต ผู้แทนภาครัฐและเอกชนเดนมาร์ก กลุ่ม Friends of Thailand จากแวดวงต่าง ๆ และผู้แทนชุมชนไทยในเดนมาร์ก โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดเตรียมอาหารไทยแก่ผู้มาร่วมงาน ได้แก่ ต้มยำกุ้ง และชุดแกงไทย ได้แก่ พะแนงเนื้อ มัสมั่นหมู แกงเขียวหวานไก่ เสริฟพร้อมข้าวหอมมะลิ ตลอดจนอาหารทานเล่นต่าง ๆ ได้แก่ ไส้กรอกอีสาน ทอดมันปลา แฮ่กึ๊นกุ้ง ปอเปี๊ยทอด และยังมีการสาธิตข้าวเกรียบปากหม้อและสาคูไส้ไก่โดยเชฟจากทำเนียบเอกอัครราชทูตฯ รวมทั้งยังมีขนมไทยหลากหลายรายการในงานเลี้ยงรับรองซึ่งได้รับการจัดเตรียมและสนับสนุนจากชุมชนไทยในกรุงโคเปนเฮเกน