สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ อัครสาวกของสมเด็จพระสัมมนาสัมพุทธเจ้า ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 24 ก.พ. - 3 มี.ค. 2567

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ อัครสาวกของสมเด็จพระสัมมนาสัมพุทธเจ้า ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 24 ก.พ. - 3 มี.ค. 2567

วันที่นำเข้าข้อมูล 23 ก.พ. 2567

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 23 ก.พ. 2567

| 474 view
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ อัครสาวกของสมเด็จพระสัมมนาสัมพุทธเจ้า ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 24 ก.พ. - 3 มี.ค. 2567 หลังจากนั้นจะมีการอัญเชิญไปประดิษฐานในอีก 3 จังหวัด ได้แก่ (1) ภาคเหนือ วันที่ 5- 8 มี.ค. ที่หอคำหลวง อุทยานหลังราชพฤกษ์ จ. เชียงใหม่ (2) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันที่ 10- 13 มี.ค. ที่วัดมหาวนาราม (วัดป่าใหญ่) จ. อุบลราชธานี และ (3) ภาคใต้ วันที่ 15-18 มี.ค. ที่วัดมหาธาตุวชิรมงคล (วัดบางโทง) จ. กระบี่
รัฐบาลไทยได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ มาจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินเดียภายใต้ “โครงการธรรมยาตราจากมหานทีคงคาสู่ลุ่มน้ำโขง: สักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
พระสารีบุตรได้รับการยกย่องจากพระบรมศาสดาว่าเป็นพระอัครสาวกเบื้องขวา ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีปัญญาเป็นเลิศ เป็นแม่ทัพฝ่ายธรรมและเป็นกำลังสำคัญในการเผยแพร่พระศาสนา ส่วนพระโมคลานะได้รับการยกย่องว่าเป็นพระอัครสาวกเบื้องซ้าย เป็นผู้มีความเป็นเลิศด้านฤทธานุภาพ ปราบปรามคนชั่วและดูแลปกครองภิกษุที่ประพฤติมิชอบ พระบรมสารีริกธาตุถูกค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2441 จากสถูปโบราณเมืองปิปราห์วา สันนิษฐานว่าเป็นที่ตั้งของกรุงกบิลพัสดุ์ในสมัยพุทธกาล ส่วนพระอรหันตธาตุของสองพระอัครสาวกพบเมื่อปี พ.ศ. 2394 จากสถูปเมืองสาญจี ประเทศอินเดีย
ภาพจาก https://medium.com/

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ