เมื่อระหว่างวันที่ ๒๔ – ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๗ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน ร่วมกับกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินโครงการ “การอบรมความรู้ด้านสุขภาพจิตแก่อาสาสมัครชาวไทยและชุมชนไทยในเดนมาร์ก” ระหว่างวันที่ ๒๔ - ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๗ ที่กรุงโคเปนเฮเกน เมืองออร์ฮูส และเมืองออลบอร์ก โดยมีแพทย์หญิงวิมลรัตน์ วัญเพ็ญ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ เป็นวิทยากร ซึ่งมีอาสาสมัครชาวไทยและชุมชนไทยให้ความสนใจเข้าร่วมทั้งหมดประมาณ ๑๐๐ คน

โครงการฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนไทยในเดนมาร์กได้มีความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจิตที่จะช่วยให้สามารถใช้ชีวิตในต่างแดนได้อย่างมีความสุข และสามารถให้คำปรึกษาช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ โดยวิทยากรได้มุ่งเน้นทักษะในการรับฟัง และการสื่อสารกับคนในครอบครัว เพื่อน และบุคคลอื่น อันนำไปสู่การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน รวมถึงการศึกษาสภาพจิตใจและการให้กำลังใจตนเอง ด้วยการบรรยายที่เข้าใจได้ง่ายและให้ผู้เข้าอบรมทำกิจกรรมร่วมกัน นอกจากนี้ วิทยากรยังได้ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตบางรายบุคคลด้วย

โครงการฯ ได้รับการตอบรับที่ดียิ่งจากผู้เข้าร่วมซึ่งต่างเห็นว่าความรู้ที่ได้จากการอบรมเป็นประโยชน์อย่างมากที่จะนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันของตนเอง และการทำงานของจิตอาสาในการให้คำปรึกษาช่วยเหลือชุมชนไทยต่อไป ทั้งนี้ สามารถศึกษาข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจิตเพิ่มเติมได้ที่

(1.) ไลน์ “คุยกัน” (KhunKun) ซึ่งมีพยาบาลจิตเวชให้คำปรึกษาในระหว่างเวลา 8.30 – 16.30 น. เวลาประเทศไทย หรือระหว่างเวลา 3.30 -11.30 น. เวลาท้องถิ่นเดนมาร์ก โดยสามารถแอดไลน์ไอดีได้ที่ https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=khuikun

(2) เพจเฟซบุ๊ก Lovecare Station ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตวัยรุ่นผ่านทางข้อความเฟซบุ๊ก (Facebook Chat) โดยสามารถเข้าถึงได้ที่ https://www.facebook.com/lovecarestation

(3.) เพจเฟซบุ๊ก 1323 ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิต ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตทั่วไปผ่านทางข้อความเฟซบุ๊ก (Facebook Chat) ตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถเข้าถึงได้ที่ https://www.facebook.com/helpline1323

ในโอกาสนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอขอบคุณท่านวิทยากรแพทย์หญิงวิมลรัตน์ฯ ตลอดจนวัดป่าโคเปนเฮเกน ศูนย์ FAKTI Copenhagen องค์กร Reden Aarhus และโรงแรม Radisson Blu Limfjord Aalborg ที่เอื้อเฝื้อสถานที่จัดกิจกรรม รวมทั้งจิตอาสาและชุมชนไทยทุกท่านที่ช่วยประสานงานและเข้าร่วมการอบรมซึ่งส่งผลให้โครงการประสบความสำเร็จไปด้วยดี โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ มีแผนที่จะจัดโครงการอีกในอนาคตเพื่อให้บริการชุมชนไทยอย่างต่อเนื่องและทั่วถึงมากขึ้นต่อไป